Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/626
Title: EFFECTIVENESS OF ORAL HEALTH BEHAVIOR MODIFICATION PROGRAM BY APPLYING HEALTH LITERACY WITH SELF-EFFICACY AND SOCIAL SUPPORT ON PERIODONTAL STATUS AMONG ELDERLY IN MAE RIM DISTRICT, CHIANG MAI PROVINCE.
ประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก โดยประยุกต์แนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพร่วมกับการรับรู้ความสามารถของตนเองและแรงสนับสนุนทางสังคมต่อสภาวะปริทันต์ในผู้สูงอายุ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
Authors: Pattaraporn Khamrin
ภัทราภรณ์ คำรินทร์
Katekaew Seangpraw
เกษแก้ว เสียงเพราะ
University of Phayao. School of Medicine
Keywords: โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ
การรับรู้ความสามารถของตนเอง
แรงสนับสนุนทางสังคม
สภาวะปริทันต์
ผู้สูงอายุ
Oral health behavior modification program
Health literacy
Self-efficacy
Social support
Periodontal status
Elderly
Issue Date:  7
Publisher: University of Phayao
Abstract: The purpose of this quasi-experimental research was to investigate the effectiveness of an oral health behavior modification program by applying the concept of health literacy with self-efficacy and social support on periodontitis among the elderly, Mae Rim District, Chiang Mai Province. Samples consisted of 96 participants who were equally assigned into an experimental group (n=48) and a comparison group (n=48). This study used multistage sample. The experimental group received an oral health behavior modification program. The duration of the activity was 11 weeks and consisted of 8 activities. The control group received a routine health education program. Data were collected using questionnaires and Periodontal status examination at the pre- and post-test. Statistical analysis was performed using Descriptive statistics, Chi-square test, Paired T-test, and Independent T-Test. Results revealed that; after the intervention, the experimental group had mean scores on health literacy, self-efficacy, social support, and health behaviors for Periodontal disease and significantly higher than the control group (p-value <0.05). In addition, after the experiment, the amount of plaque index and gingival index decreased in the experimental group were significantly lower than the control group (p-value < 0.05). Therefore, the implementation of oral health promotion policies in primary care agencies is important and should promote the decision-making process for dental services among the elderly in the area.
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก โดยประยุกต์แนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพร่วมกับการรับรู้ความสามารถของตนเองและ แรงสนับสนุนทางสังคมต่อสภาวะปริทันต์ในผู้สูงอายุ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มทดลองจำนวน 96 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 48 คน ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก ระยะเวลา 11 สัปดาห์ จำนวน 8 กิจกรรม และกลุ่มควบคุมได้รับโปรแกรมปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามและการตรวจสภาวะปริทันต์ ที่ระยะก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Chi-square test Paired T-test และ Independent T-Test ผลการศึกษาพบว่า หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพ การรับรู้ความสามารถของตนเอง แรงสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการป้องกันโรคปริทันต์สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) นอกจากนั้น หลังการทดลองปริมาณคราบจุลินทรีย์และระดับความรุนแรงของโรคเหงือกอักเสบของกลุ่มทดลองลดลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) ดังนั้นการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในหน่วยงานระดับปฐมภูมิมีความสำคัญและควรส่งเสริมกระบวนการตัดสินใจต่อการมารับบริการทางทันตกรรมของผู้สูงอายุในพื้นที่
Description: Master of Public Health (M.P.H.)
สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (ส.ม.)
URI: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/626
Appears in Collections:School of Medicine

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
62055659.pdf7.5 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.