Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/1069
Title: THE SITUATION FOR MOVING THE QUALITY POLICY OF EDUCATIONALINSTITUTIONS UNDER THE OFFICE OF LAMPANG PRIMARYEDUCATIONAL SERVICE AREA 3
สภาพการขับเคลื่อนนโยบายคุณภาพของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3
Authors: Patcharin Poomjun
พัชรินทร์ พุ่มจันทร์
sunthon Khlal um
สุนทร คล้ายอ่ำ
University of Phayao
sunthon Khlal um
สุนทร คล้ายอ่ำ
sunthon.kh@up.ac.th
sunthon.kh@up.ac.th
Keywords: การขับเคลื่อน
นโยบาย
คุณภาพ
Moving
Policy
Quality
Issue Date:  20
Publisher: University of Phayao
Abstract: The purposes of this research were to study the situation for moving the quality policy of educational institutions under the Office of Lampang Primary Education Service Area 3 and to compare the situation for moving the quality policy of educational institutions under The Office of Lampang Primary Education Service Area 3 classified by educational level, work experience and school size. The sample group were 315 person including school administrators and teachers work in Office of Lampang Primary Education Service Area. The research instrument was questionnaire rating scale. The statistics data analysis were percentage, mean (µ), standard deviation (σ), t-test and F-test. The results of research found that 1)The situation for moving the quality policy of educational institutions under the Office of Lampang Primary Education Service Area 3. Overall of 4 topis, were at a high level in every topics. The highest topic were the quality of teachers and quality of students. Next was quality of schools and the lowest topic was the quality of area office. 2) Comparing the situation for moving the quality policy of educational institutions under the Office of Lampang Primary Education Service Area 3 that classified by educational level, work experience and school size as follows: 1) Classified by educational level. Overall, it was found that significantly different at the .05 level; when considering each topic it was found different education levels of school administrators and teachers resulting to different opinions of area office, quality of schools, quality of teachers and quality of students had a significantly different at the .05 level 2) Classified by work experience. Overall, it was found that significantly different at the .05 level; when considering each topic it was found different work experience of school administrators and teachers resulting to different opinions of area office, quality of schools, quality of teachers and quality of students had a significantly different at the .05 level and 3) Classified by school size. Overall, it was found that significantly different at the .05 level; when considering each topic it was found different school size of school administrators and teachers resulting to different opinions of area office, quality of schools, quality of teachers and quality of students had a significantly different at the .05 level.
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการขับเคลื่อนนโยบายคุณภาพของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 และเพื่อเปรียบเทียบสภาพการขับเคลื่อนนโยบายคุณภาพของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 จำแนกตามระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และขนาดของสถานศึกษาของผู้บริหารและครู กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ผู้บริหารและครู ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 จำนวน 315 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test และค่า F-test จากผลการศึกษาพบว่า 1) สภาพการขับเคลื่อนนโยบายคุณภาพของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 ทั้ง 4 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านครูคุณภาพ และด้านนักเรียนคุณภาพ รองลงมา คือ ด้านโรงเรียนคุณภาพ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านสำนักงานเขตคุณภาพ 2) เปรียบเทียบสภาพการขับเคลื่อนนโยบายคุณภาพของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 พบว่า 1) จำแนกตามระดับการศึกษา โดยภาพรวมพบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นในด้านสำนักงานเขตพื้นที่คุณภาพ ด้านโรงเรียนคุณภาพ ด้านครูคุณภาพ และด้านนักเรียนคุณภาพมีความแตกต่างกัน อย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) จำแนกตามประสบการณ์ทำงาน โดยภาพรวมพบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่มีประสบการณ์ในการทำงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นในด้านสำนักงานเขตพื้นที่คุณภาพ ด้านโรงเรียนคุณภาพ ด้านครูคุณภาพ และด้านนักเรียนคุณภาพมีความแตกต่างกัน อย่างนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวมพบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่อยู่ในสถานศึกษาที่มีขนาดแตกต่างกัน มีความคิดเห็นในด้านสำนักงานเขตพื้นที่คุณภาพ ด้านโรงเรียนคุณภาพ ด้านครูคุณภาพ และด้านนักเรียนคุณภาพมีความแตกต่างกัน อย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
URI: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/1069
Appears in Collections:School of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
65204603.pdf3.16 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.