Please use this identifier to cite or link to this item:
http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/581
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor | Chayutra Pangsanit | en |
dc.contributor | ชยุตรา แปงสนิท | th |
dc.contributor.advisor | Taweewun Srisookkum | en |
dc.contributor.advisor | ทวีวรรณ ศรีสุขคำ | th |
dc.contributor.other | University of Phayao. School of Medicine | en |
dc.date.accessioned | 2022-09-16T07:16:40Z | - |
dc.date.available | 2022-09-16T07:16:40Z | - |
dc.date.issued | 30/5/2022 | |
dc.identifier.uri | http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/581 | - |
dc.description | Master of Public Health (M.P.H.) | en |
dc.description | สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (ส.ม.) | th |
dc.description.abstract | A quasi–experimental research was conducted to identify the effectiveness of oral hygiene care behavioral modification program by applying self-efficacy theory among older person with type 2 diabetes mellitus SoemNgam hospital, Lampang province. This research was study groups and comparison groups each 31 participants from multi-stage random sampling which take measurements before intervention, and after follow-up period of the program. The study group participated an application from the theory of self-efficacy together with functional health literacy for 10 weeks. Data were collected by using a questionnaire, and analyzed by frequency distribution, percentage, mean scores, standard deviation, and inferential statistics, independent t-test, one-way ANOVA and Repeated measure ANOVA determination the significance level p-value < 0.05. The results revealed that after the experiment, the study group had the mean score in functional health literacy on oral hygiene care (F = 66.682, p-value < 0.001), self-efficacy for prevention (F = 7.16, p-value < 0.001), outcome expectancies (F = 4.235, p-value < 0.001), oral hygiene care behavioral (F = 71.280, p-value < 0.001) was significantly higher than before participating and more than the comparison group. Whereas plaque control mean scores was significantly less than before participating and lower than the comparison group (F = 127.796, p-value < 0.001) in the experiment. The oral hygiene behavior modification program showed it can be applied to groups with similar demographic characteristics for promoting health behaviors in older persons to have self-confidence, have the ability to determine behaviors that are appropriate for themselves and improve oral hygiene behaviors. | en |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษากึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากในผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลเสริมงาม จังหวัดลำปาง แบ่งการศึกษาออกเป็นกลุ่มศึกษาและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 31 คน ซึ่งมาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ทำการวัดผลก่อนการเข้าร่วม หลังการเข้าร่วมและระยะติดตามผลของโปรแกรม โดยกลุ่มศึกษาเข้าร่วมโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก โดยใช้หลักการสร้างการรับรู้ความสามารถของตนเองร่วมกับ ความรอบรู้ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน ใช้ระยะเวลา 10 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent t-test, one-way ANOVA และ Repeated measure ANOVA กำหนดระดับนัยสำคัญ p < 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น กลุ่มศึกษามีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานเรื่องการดูแลอนามัยช่องปาก สูงขึ้น (F = 66.682, p < 0.001) การรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อการป้องกันโรคสูงขึ้น (F = 7.16, p-value < 0.001) ความคาดหวังในผลที่เกิดจากการปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคสูงขึ้น (F = 4.235, p-value < 0.001) และพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากสูงขึ้น (F = 71.280, p-value < 0.001) มากกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม และมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในขณะที่ค่าเฉลี่ย คราบจุลินทรีย์น้อยลงกว่าก่อนเข้าร่วม และน้อยลงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ (F = 127.796, p-value < 0.001) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากนี้ สามารถประยุกต์ใช้กับกลุ่มที่มีลักษณะทางประชากรคล้ายคลึงกันเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุ ให้มีความมั่นใจในตนเอง มีความสามารถที่จะกำหนดพฤติกรรมที่เหมาะสมกับตนเองได้ และเกิดพฤติกรรม การดูแลอนามัยช่องปากที่ดีขึ้นต่อไป | th |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | University of Phayao | |
dc.rights | University of Phayao | |
dc.subject | โปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพ | th |
dc.subject | ความรอบรู้ด้านสุขภาพ | th |
dc.subject | การรับรู้ความสามารถแห่งตน | th |
dc.subject | ผู้สูงอายุ | th |
dc.subject | โรคเบาหวานชนิดที่ 2 | th |
dc.subject | Oral health care program | en |
dc.subject | Health literacy | en |
dc.subject | Self-efficacy | en |
dc.subject | Older person | en |
dc.subject | Type 2 diabetes mellitus | en |
dc.subject.classification | Health Professions | en |
dc.title | Effectiveness of Oral Hygiene Care Behavioral Modification Program by Applying Self-Efficacy Theory among Older person with Type 2 Diabetes Mellitus SoemNgam Hospital, Lampang Province | en |
dc.title | ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเอง ในผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2โรงพยาบาลเสริมงาม จังหวัดลำปาง | th |
dc.type | Independent Study | en |
dc.type | การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง | th |
Appears in Collections: | School of Medicine |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
62055604.pdf | 3.73 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.