THE MODEL OF WORLD-CLASS STANDARD SCHOOL ADMINISTRATORS COMPETENCY DEVELOPMENT IN SECONDARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE

Abstract

This research aimed to study the competencies and guidelines for developing the competencies and to create and evaluate a model developing world-class standard school administrators' competencies in the Secondary Educational Service Area Office. The study was divided into 3 phases; phase 1 was examined of competencies and guidelines for the development of competencies.Questionnaire about the competency of world-class standard school administrators and interviewing eight experts; doing mini structured interviews. phase 2 was created a model developing world-class standard school administrators' competencies, Checking by focus group.The target group was nine experts., and phase 3 was an evaluated model developing the competencies. The sample group used in the research was 122 school administrators of a world-class standard school that received the Quality Award:OBECQA. By data analysis through basic statistics were used: mean and standard deviation.

When the research was implemented in this study, it was found that 1. Competency of world-class standard school administrators, the overall result was at the highest level. The guidelines for the development of competencies of world-class standard school administrators, there were 5 processes as follows:1) Study the policy of educational management and competencies (Search) (2) Plan to develop the competencies (Plan)(3)The processes of executive competency development (Do) (4) Monitoring and evaluation procedures(Check), (5) Improve and develop competency for development (Acting). 2. The model of world-class standard school administrators' competencies development, there were four components summarized as follows; 1) principles and rationale. 2) the competencies of the school administrators. 3) the guidelines for developing competencies 4) conditions for success. The propriety was the highest level. 3. The result of evaluates the model developing the competencies of world-class standard school administrators in the Secondary Educational Service Area Office. The feasibility and benefit was high level and the highest level.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล สร้างและประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล การวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสมรรถนะและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากลและแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล และตรวจสอบรูปแบบโดยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน และระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ได้รับรางวัล OBECQA จำนวน 122 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า 1. สมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล มี 3 สมรรถนะ ประกอบด้วย สมรรถนะหลัก สมรรถนะประจำสายงาน และสมรรถนะส่วนบุคคล ซึ่งมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล มี 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นศึกษาสภาพสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนและทิศทางการจัดการศึกษา (Searching: S) 2) ขั้นวางแผนการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียน (Planning: P) 3) ขั้นดำเนินการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียน (Doing: D) 4) ขั้นติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียน (Checking: C) และ 5) ขั้นปรับปรุงและพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียน (Acting: A) 2. รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการและเหตุผล 2) สมรรถนะผู้บริหารโรงเรียน 3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียน และ 4) ปัจจัยความสำเร็จ และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3. รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา มีความเป็นไปได้โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความเป็นประโยชน์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด