Quality improvement of pellet organic fertilizer products and the effects of fertilizers on growth and yield of kale

Abstract

Experiments were aimed at productivity improvement of the pellet organic fertilizer from manufacturer and the effect of fertilizers application on growth and yield of kale. In experiment 1, the analysis of major raw materials from participating factory including corn cob compost obtained from an irreversible compost pile, chicken manure, swine manure, leonardite and basalt rock powder. The results showed that the highest amount of organic matter 24.18% and total nitrogen 1.28% were found in leonardite and chicken manure respectively. Experiment 2 the data from the study on the optimal ratio of raw materials used for fertilizer production revealed that the highest organic matter content 23.11% and total nitrogen 1.10% were obtained from leonardite: basalt rock powder: corn cob compost: swine manure: chicken manure mixed in the ratio of 1:1:3:2.3 by weight. Results of experiment 3 showed that the improved pellet organic fertilizer represented the consistently quality and most comprehensive portfolio in the fertilizer production process. In experiment 4 studies on the effect of fertilizers on growth and yield of kale, the improved pellet organic fertilizer was found to enhance growth and yield components in kale when low rate of fertilizer was appropriate to apply.

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดที่ผลิตโดยโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของผักคะน้า ในการทดลองที่ 1 วัตถุดิบที่โรงงานร่วมวิจัยใช้ผลิตปุ๋ยประกอบด้วย ปุ๋ยหมักจากซังข้าวโพดแบบไม่พลิกกลับกอง มูลไก่ไข่ มูลสุกร ปุ๋ยหมักผักตบชวา แร่ลีโอนาร์ไดต์ และหินบะซอลต์บด ผลการศึกษาพบว่าแร่ลีโอนาร์ไดต์มีปริมาณอินทรียวัตถุสูงที่สุด เท่ากับ 24.18 เปอร์เซ็นต์ และมูลไก่มีปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดสูงที่สุดเท่ากับ 1.28 เปอร์เซ็นต์ การทดลองที่ 2 ศึกษาชนิดและอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด พบว่า การใช้แร่ลีโอนาร์ไดต์ : หินบะซอลต์บดละเอียด : ปุ๋ยหมักจากซังข้าวโพดแบบไม่กลับกอง : มูลสุกร : มูลไก่ไข่ ผสมกันในอัตราส่วน 1:1:3:2:3 โดยน้ำหนัก มีปริมาณอินทรียวัตถุ และปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดสูงที่สุด เท่ากับ 23.11 เปอร์เซ็นต์ และ 1.10 เปอร์เซ็นต์ การทดลองที่ 3 เมื่อนำมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดในสายพานการผลิตของโรงงานแล้ว พบว่า คุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดนั้นมีความสม่ำเสมอ การทดลองที่ 4 การทดสอบผลของการใช้ปุ๋ยหลังผ่านการปรับปรุงคุณภาพต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของผักคะน้า พบว่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของโรงงานในอัตราต่ำ ทำให้คะน้ามีการเจริญเติบโตและคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว และอัตราการเจริญเติบโตของกลุ่มพืช ใกล้เคียงกับการใช้ปุ๋ยเคมี ดังนั้นการนำปุ๋ยอินทรีย์ของโรงงานมาใช้ในการปลูกคะน้า สามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตได้ดี