ON FARM TRIALS OF PER-COMMERCIAL WAXY CORN HYBRIDS IN UPPER NORTHERN PROVINCES CHIANG RAI, PHAYAO, PHREA AND NAN

Abstract

The objective of this study was to develop per-commercial waxy corn hybrid varieties suitable for the area in the upper northern region; Chiang Rai, Phayao, Phrea and Nan. Seventy waxy corn line obtained from selected waxy corn germplasm were used in hybrid development. Ninety-seven F1 hybrids were obtained by the top cross method with the 2 testers. On-farm comparative yield assessment and evaluation of selection in developing inbred lines were conducted in the 2018 early rainy season. Results of the study revealed that the highest ear weight ranged between 1,963 and 2,355 kg./rai were obtained from UPWXF-21 hybrid while check varieties, Sweet Berry and White Violet 926 yielded 1,228 and 920 kg./rai respectively. A good eating satisfaction for all hybrid lines was assessed as fair and good. A total of 29 inbred line composed of 23 white and 6 purple inbred line possess good agronomic important traits were obtained. The average seedling vigor varying from 4 to 5 scores. Mean time to 50% tasseling and 50% silking was 51 day. Plant height and ear height aspects ranged from moderate to good with total concurrent score of 3 to 4. The top-cross experiment was carried out for the preliminary hybrid performance valuation in late rainy season 2019. Four testers, 3 white and 1 purple hybrids were used in the assessment. Sixty-tree hybrids were obtained in the trial year. The results revealed that UPWXF-42 line gave the highest yirlds of whole ear (1,869 kg./rai) and shelled corn (1,346 kg./rai) while check varieties three colored waxy corn lines, Sweet White 25 yielded average whole ear 1,787 kg./rai and shelled corn 1,180 kg./rai. Eating quality standards for all hybrids were of fair quality and down to a lower quality as compared to check varieties.

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเขต 2 จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน จากการใช้เชื้อพันธุกรรม จำนวน 70 สายพันธุ์ สร้างลูกผสมด้วยวิธี Topcross ใช้ตัวทดสอบ 2 สายพันธุ์ ได้ลูกผสม 97 พันธุ์ ทำการปลูกทดสอบผลผลิตในต้นฤดูฝน (2018E) พบว่า พันธุ์ลูกผสม UPWXF-21 ให้ค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 2,355 และ 1,963 กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบที่ให้ผลผลิตทั้งเปลือกสูงที่สุด คือ สวีทเบอร์รี่ เท่ากับ 1,228 กิโลกรัมต่อไร่ และผลผลิตหลัง ปอกเปลือก คือ ไวโอเลทว์ 926 เท่ากับ 920 กิโลกรัมต่อไร่ ทางด้านคุณภาพในการบริโภคทุกคู่ผสมอยู่ในเกณฑ์พอใช้-ดี จากนั้นปลูกพัฒนาและคัดเลือกสายพันธุ์ จนได้สายพันธุ์แท้ที่มีลักษณะทางเกษตรที่ดี จำนวน 29 สายพันธุ์ ได้แก่ สีขาว 23 และสีม่วง 6 สายพันธุ์ มีลักษณะความแข็งแรงต้นกล้า และระดับความแข็งแรงต้น ดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4 และ 5 ขณะที่วันสลัดละอองเกสร และวันออกไหม 50 เปอร์เซ็นต์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 51 วัน สำหรับลักษณะทรงต้นและตำแหน่งฝัก มีความสม่ำเสมอปานกลาง-ดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3 และ 4 จากนั้นทำการผสมระหว่างสายพันธุ์เพื่อสร้างลูกผสมเบื้องต้น ด้วยวิธี Topcross ใช้ตัวทดสอบ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ตัวทดสอบสีขาว 3 และตัวทดสอบสีม่วง 1 สายพันธุ์ ได้ลูกผสม 63 พันธุ์ ทดสอบผลผลิตเบื้องต้นในปลายฤดูฝน (2019L) บนพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเขต 2 พบว่า พันธุ์ UPWXF-42 ให้ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด เท่ากับ 1,869 และ 1,346 กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบ ข้าวเหนียวสามสี ให้ผลผลิตทั้งเปลือกสูงที่สุด เท่ากับ 1,787 กิโลกรัมต่อไร่ และผลผลิตหลังปอกเปลือก คือ สวีทไวท์ 25 เท่ากับ 1,180 กิโลกรัมต่อไร่ ทางด้านคุณภาพในการบริโภคทุกคู่ผสมอยู่ในเกณฑ์คุณภาพในการบริโภคน้อย-พอใช้ เมื่อเทียบกับพันธุ์เปรียบเทียบ