A Study on Management Models and Success Factors: A Case Study of Grande Centre Point Space Pattaya Hotel

Abstract

The objectives of this research were to study 1) the management model of Grande Centre Point Space Pattaya Hotel in terms of the 4M management concept, 2) the marketing mix (7 P’s) that had influenced the hotel’s success, 3) the success factors derived from a SWOT analysis. This study employed a qualitative research method. Data were collected through in-depth interviews including 5 middle and senior managers of the hotel, 5 hotel staff from various departments, 5 outsources, and 5 academics, executives, or entrepreneurs with in the hotel industry. Non-participant observation was also conducted. The data were analyzed using content synthesis, and the reliability was verified by triangulation.

The findings revealed that, the 4M management approach, The human resources through motivation and a hybrid strategy between staff and outsources. Finance, the hotel used economies of scale. Materials had designed with the space theme. Management, the hotel had high flexibility by non international chain. The marketing mix (7 P’s), the hotel stood out with uniquely designed space-themed services, positioned at the upper price level averaging 8,000 THB per night, focusing on experiential value. It had diverse distribution channels and an advanced direct booking, a membership program and point collection system. Staff development and participation had been continuously emphasized. Work processes maintained high standards. SWOT analysis that the hotel’s strengths in unique designed concept. Weaknesses included its non-beachfront location and market expansion limitations. Opportunities from the post-COVID-19 recovery of the tourism, the growth of family and MICE segments seeking new integrated experiences, the potential to extend the concept into edutainment hotels and infrastructure development projects that expanded markets to neighboring countries. Threats included economic uncertainty and intense competition. The hotel showcased innovative services and management by focusing on customer-oriented design, effective human resource management, technology integration, and an open organizational culture. These elements differentiated the hotel and enhanced its sustainable competitiveness. The study concluded that a flexible, strategic, and experience-driven management model was central to its success in a competitive environment.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) รูปแบบการบริหารจัดการของโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปช พัทยา ด้านการบริหาร 4M ได้แก่ ด้านคนหรือบุคลากร เงินหรืองบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และจัดการโดยรวม 2) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาด (7 P’s) ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโรงแรม 3) เพื่อศึกษาปัจจัยความสำเร็จจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมด้วย SWOT Analysis โดยวิธีวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้บริหารระดับกลาง และผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม จำนวน 5 คน พนักงานโรงแรมในส่วนงานต่าง ๆ จำนวน 5 คน ผู้ประกอบการร่วม และเครือข่ายธุรกิจภายนอก จำนวน 5 คน และนักวิชาการหรือผู้บริหารหรือผู้ประกอบการที่มี ความเชี่ยวชาญด้านโรงแรม จำนวน 5 คน ร่วมกับการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการสังเคราะห์เชิงเนื้อหา และตรวจสอบความน่าเชื่อถือโดยวิธีสามเส้า

ผลการศึกษา พบว่า ด้านการบริหารจัดการตามแนวคิด 4M โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา มีการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ ทั้งด้านแรงจูงใจ การฝึกอบรม และการใช้กลยุทธ์แบบผสมผสานระหว่างพนักงานประจำและผู้ประกอบการร่วม ด้านการเงิน โรงแรมบริหารต้นทุนโดยใช้ขนาดธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านวัสดุ มีการออกแบบพื้นที่สอดคล้องกับธีม และด้านการจัดการ โรงแรมมีความคล่องตัวสูงจากการไม่อยู่ในเครือต่างประเทศ ด้านส่วนประสมทางการตลาด (7 P's) โรงแรมมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบบริการที่มีเอกลักษณ์รูปแบบอวกาศ วางตำแหน่งราคาในระดับบนที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 8,000 บาท ต่อคืน เน้นมูลค่าของประสบการณ์ มีความหลากหลายในช่องทางจำหน่ายและทันสมัยพร้อมระบบจองตรงผ่านโปรแกรมสมาชิก ใช้ระบบสะสมแต้ม บุคลากรเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการมีส่วนร่วม กระบวนการทำงานมีมาตรฐานสูงและระบบวัดผลด้วยดัชนีชี้วัดผลงาน และสะท้อนรูปแบบอวกาศอย่างครบวงจร ด้านการวิเคราะห์ SWOT Analysis พบว่า โรงแรมมีจุดแข็งด้านแนวคิดการออกแบบที่ชัดเจน โดยใช้รูปแบบอวกาศที่เป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่จดจำและตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จุดอ่อน คือ ที่ตั้งไม่ติดชายหาดและข้อจำกัดในการขยายตลาด โอกาส คือ แนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 การเติบโตของกลุ่มครอบครัว และสถานที่จัดประชุม ที่มองหาประสบการณ์ใหม่แบบครบวงจร และศักยภาพการต่อยอดแนวคิดเป็นโรงแรมส่งเสริมด้านการศึกษา รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เปิดโอกาสขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน อุปสรรค คือ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง โรงแรมได้แสดงให้เห็นถึงการนำเสนอนวัตกรรมการบริการและนวัตกรรมการจัดการที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ โดยการออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า การบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีในการจัดการ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ เปิดกว้าง ทำให้โรงแรมสามารถสร้างความแตกต่างและความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน ผลการวิจัยสะท้อนว่ารูปแบบการบริหารที่ยืดหยุ่น เชิงกลยุทธ์ และเน้นประสบการณ์ มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของโรงแรมในสภาพแวดล้อมการแข่งขันสูง