THE OPERATING CONDITIONS ACCORDING TO THE LEARNING REGRESSION RECOVERY MEASURES OF SCHOOL ADMINISTRATORS UNDER THE OFFICE OF THE PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA, CHIANG RAI AREA 3

Abstract

This research aimed 1) to examine the implementation status of measures to remediate learning loss among school administrators under the Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 3, and 2) to compare the implementation status based on school size and years of administrative experience. The target population consisted of 139 school principals. The research instrument was a questionnaire, with a content validity index (CVI) of 1.00 and a reliability coefficient of 0.98. Data were analyzed using mean, standard deviation, and F-test. The results of the study found that: 1) The overall implementation of learning loss remediation measures was at a high level. The most effectively implemented measure was Measure 3, which involved promoting effective collaboration among schools, teachers, parents, communities, and related sectors. The second most implemented was Measure 1, focusing on the redesign of learning processes to meet the changing context and student needs. The least implemented was Measure 5, which emphasized fostering positive attitudes toward learning and promoting students’ overall well-being, both physical and mental. 2) The comparison based on school size revealed a statistically significant difference in the implementation of remediation measures. However, the comparison based on administrative experience showed no statistically significant difference.

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการดำเนินงานตามมาตรการการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 2) เปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานตามมาตรการการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำแนกตามขนาดของโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวนทั้งสิ้น 139 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 1.00 ทุกข้อ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ F-Test ผลการศึกษาพบว่า 1) สภาพการดำเนินงานตามมาตรการการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก มาตรการที่มีการดำเนินการมากที่สุดคือ มาตรการที่ 3 การสร้างการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รองลงมาคือ มาตรการที่ 1 การออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ใหม่ที่ตอบสนองบริบทความเปลี่ยนแปลง และความต้องการของผู้เรียน และมาตรการที่มีการดำเนินการน้อยที่สุดคือ มาตรการที่ 5 การสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และสุขภาวะ ที่ดีของผู้เรียน ทั้งสุขภาพ และสุขภาพจิต 2) ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของสภาพการดำเนินงานตามมาตรการการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำแนกตามขนาดของโรงเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิต จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ