A Comparison of Multicultural Leadership Among School Administrators in Rajaprajanugroh Schools, Special Education Administration Bureau, Group 6, Upper Northern Region

Abstract

This research aimed to: 1) examine the level of multicultural leadership among school administrators and compare the levels of multicultural leadership of administrators in Rajaprajanugroh Schools, special education administration bureau, group 6, upper northern region, classified by school size and teachers’ work experience; and 2) explore guidelines for the development of multicultural leadership for these administrators. The sample group consisted of 282 teachers from Rajaprajanugroh Schools special education administration bureau, group 6, upper northern region, in the academic year 2024, obtained through simple random sampling. The research instrument was a 5-point rating scale questionnaire with an IOC value ranging from 0.60-1.00 and a reliability coefficient (α) of 0.909 and 2) a semi-structured interview form. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, and one-way ANOVA. The results showed that: 1) The overall level of multicultural leadership among Rajaprajanugroh School administrators was high. When examining individual aspects, building good relationships with the community rated highest, followed by acceptance of cultural diversity, promotion of equality, equity and educational justice, development of internal organizational relationships, resource support, communication competence, and morality, respectively. 2) Comparison by teaching experience showed statistically significant differences at the .05 level in all aspects. When comparing by school size, significant differences were found in five aspects: acceptance of cultural diversity, communication competence, development of internal organizational relationships, morality, and building good relationships with the community, all with statistically significant differences at the .05 level. 3) The proposed guidelines for developing multicultural leadership among school administrators emphasize the need for understanding and respecting diversity, effective communication using clear and accessible language, promoting learning, and fostering sustainable collaboration and strong relationships with the community. Furthermore, it is essential to support the exchange of ideas, utilize technology to enhance student quality, and establish a participatory organizational culture to strengthen interpersonal relationships. Administrators should also serve as moral role models, reduce biases, and encourage positive activities to promote educational equity.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรม และเปรียบเทียบระดับภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรมของผู้บริหารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กลุ่ม 6 ภาคเหนือตอนบน จำแนกตามขนาดของโรงเรียน และประสบการณ์ในการทำงานของครู 2) เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรมของผู้บริหารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กลุ่ม 6 ภาคเหนือตอนบน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครูโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ กลุ่ม 6 ภาคเหนือตอนบน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 จำนวน 282 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่า IOC ระหว่าง 0.60-1.00 และค่าความเชื่อมั่น (α) เท่ากับ 0.909 และ 2) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรมของผู้บริหารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาได้แก่ ด้านการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้านการส่งเสริมความเท่าเทียม ความเสมอภาคและความยุติธรรมทางการศึกษา ด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในองค์กร ด้านการสนับสนุนทรัพยากร ด้านการมีความสามารถในการสื่อสาร และด้านการมีคุณธรรม ตามลำดับ 2) การเปรียบเทียบตามประสบการณ์สอนพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทุกด้าน และเมื่อจำแนกตามขนาดโรงเรียน พบความแตกต่างใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้านการมีความสามารถในการสื่อสาร ด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในองค์กร ด้านการมีคุณธรรม และด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทุกด้าน 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรมของผู้บริหารศึกษา พบว่า ผู้บริหารต้องเน้นความเข้าใจและเคารพความแตกต่าง มีความสามารถในการสื่อสาร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้เทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพผู้เรียน สร้างองค์กรเน้นการมีส่วนร่วม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ต้องเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม ลดอคติ ส่งเสริมกิจกรรมเชิงบวก เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา