A STUDY OF TEACHERS’ STRESS FACTOR OF WORKING UNDER THE OFFICEOF CHIANG RAI PRIMARY EDUCATIONAI SERVICE AREA OFFICE 2

Abstract

The objectives of this study were to study teachers’ stress factors of working under the Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2 and to compare teachers’ stress factors of working under the Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2 classified by school size and teaching experience. The sample group used in the research were 315 teachers under the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2. The data collection instrument used in this study was a questionnaire consisting of two sections. The first section gathered general demographic information about the respondents. The second section included teachers ‘stress factors using a five-point Likert scale. The statistics used for data analysis were frequency, percentage, mean, and standard deviation. The statistics used to test the hypothesis were T-Test, analysis of variance, and Schaffer's method of testing pairwise differences. The results of the study found that 1) teachers ‘stress factors of working under The Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2, according to the opinions of teachers was at a moderate level overall. Considering each aspect, it found that all areas had the moderate level of opinions, the areas with the highest average was the nature of work, followed by roles and responsibilities and the lowest was the personal characteristics. 2) The results of comparing the level of teachers’ stress factors of working under the office of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2, classified by school size was significantly different at a statistical level of .05. Considering each aspect, it found that all areas were statistically significantly different at the 0.05 level. 3) The results of comparing the levels of teachers‘ stress factors of working under the office of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 2 classified by work experience found that all areas were not significantly different overall. Considering each aspect, it found that roles and responsibilities were significantly different at a statistical level of .05.

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์นี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อการศึกษาปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน จำแนกตามขนาดสถานศึกษาและประสบการณ์การทำงานในตำแหน่ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอนที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 จำนวน 315 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม จำนวน 2 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน โดยมีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวมใช้สถิติ เมื่อพบความแตกต่าง ใช้วิธีทดสอบความแตกต่างรายคู่ตามวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe') ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความคิดเห็นอยู่ในระดับระดับปานกลาง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านลักษณะงาน รองลงมา คือ ด้านบทบาทหน้าที่ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านลักษณะบุคคล 2) ผลการเปรียบเทียบระดับปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2 จำแนกตามขนาดสถานศึกษา โดยภาพรวม พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 3) ผลการเปรียบเทียบระดับปัจจัยความเครียดในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2 จำแนกตามประสบการณ์การทำงานในตำแหน่ง โดยภาพรวม พบว่า ไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านบทบาทหน้าที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05