A MODEL OF ADMINISTRATION TO A HAPPY WORKPLACE ORGANIZATION OF SECONDARY SCHOOLS UNDER THE OFFICE OFBASIC EDUCATION COMMISSION

Abstract

This research primarily aims to develop a model of administration to a happy workplace organization of secondary schools under the Office of Basic Education. The specific objectives include: 1) To study the components and guidelines of administration of a happy workplace organization. The research process involves two steps: 1.1) studying the components of administration of a happy workplace organization, the sample group consists of 333 secondary school administrators. Data collection tools include a 5-point Likert scale questionnaire, and confirmatory factor analysis is used for data analysis. 1.2) Studying the guidelines for administering a happy workplace organization through semi-structured interviews with 5 experts. The data is analyzed using content analysis. 2) To construct the administration model of a happy workplace organization. This involves drafting the model and evaluating its appropriateness using an evaluation form completed by 13 experts. And 3) To evaluate a model of administration to a happy workplace organization. The sample group includes 333 secondary school administrators. Data collection tools include an evaluation form assessing the feasibility and the utility of a model.

The results showed that 1) the study of components and guidelines: 1.1) the overall of administration of a happy workplace organization was at the highest level. The confirmatory factor analysis found that the model demonstrated excellent alignment with empirical data. 1.2) The guidelines consisted of 4 components: principles, objectives, processes, and conditions for success. 2) The results of constructing the model showed that experts evaluated the model as being at the highest level of appropriateness. And 3) the results of evaluating the model showed that the model had the highest level of feasibility and utility.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างรูปแบบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและแนวทางในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน ดังนี้ 1.1) การศึกษาองค์ประกอบในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 333 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ และวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน 1.2) การศึกษาแนวทางในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ของโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยวิธีการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน จากแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการยกร่างรูปแบบและประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 13 คน และ 3) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 333 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ

ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการศึกษาองค์ประกอบและแนวทางในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา 1.1) ผลการศึกษาองค์ประกอบในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา ในภาพรวมมีความเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่า โมเดลความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ดีมาก 1.2) แนวทางในการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ของโรงเรียนมัธยมศึกษา และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จ 2) ผลการสร้างรูปแบบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ของโรงเรียนมัธยมศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 3) ผลการประเมินรูปแบบ การบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา พบว่า มีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด