A STUDY OF WORK-LIFE BALANCE AND QUALITY OF WORK LIFE OF GOVERNMENT TEACHERS AND EDUCATIONAL PERSONNEL BAN PONG SANOOK SCHOOL

Abstract

This research aimed 1) to study work-life balance level and quality of work life among government teachers and educational personnels of Ban Pong Sanook School, and 2) to study personal factors affecting work-life balance and quality of work life among government teachers and educational personnels of Ban Pong Sanook School. Quantitative research was used as the research methodology. An amount of 109 government teachers and educational personnels of Ban Pong Sanook School were selected as researched population by using the procedure of purposive sampling. The data was analyzed by using frequency, percentage, mean, standard deviation, and F-test.

The findings showed that work-life balance level and quality of work life among government teachers and educational personnels of Ban Pong Sanook School in overall aspects were in intermediate level (x̅ = 3.66, S.D. = 0.69). When classified from each aspect by sorting from the highest to the lowest ones, work aspect contained the highest mean, considered in high level (x̅ = 4.04, S.D. = 0.55), followed by time aspect with high-level mean (x̅ = 3.72, S.D. = 0.74), progressive stability aspect with intermediate-level mean (x̅ = 3.66, S.D. = 0.79), family aspect with intermediate-level mean (x̅ = 3.66, S.D. = 0.62), and financial aspect, considered the lowest mean, with intermediate-level mean (x̅ = 3.20, S.D. = 0.75), respectively. The results of hypothesis test illustrated that personal factors which consist of marital status, a number of children/dependents, tasks and workloads (an amount of assigned work), duration of daily work, and monthly income differently affected on overall work-life balance and quality of work life in the identical statistical significance level at 0.05.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความสมดุลของชีวิตการทำงานและคุณภาพชีวิตในการทำงาน ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้านปงสนุก 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อระดับความสมดุลของชีวิตการทำงานและคุณภาพชีวิตในการทำงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้านปงสนุก ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ศึกษา คือ ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ของโรงเรียนบ้านปงสนุก คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 109 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ F-test

ผลการศึกษา ระดับความสมดุลของชีวิตการทำงานและคุณภาพชีวิตในการทำงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้านปงสนุก ในภาพรวมทุกด้าน พบว่า ระดับความสมดุลอยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.66, S.D. = 0.69) เมื่อจำแนกตามรายด้านโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการทำงาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.04, S.D. = 0.55) รองลงมา คือ ด้านเวลา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̅ = 3.72, S.D. = 0.74) ลำดับถัดไป คือ ด้านความมั่นคงก้าวหน้า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.66, S.D. = 0.79) ลำดับถัดไป คือ ด้านครอบครัว มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.66, S.D. = 0.62) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการเงิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.20, S.D. = 0.75) ส่วนผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ สถานภาพสมรส, จำนวนบุตร/ผู้อยู่ในอุปการะ, ภารกิจและปริมาณงาน (จำนวนงานที่ได้รับมอบหมาย), ระยะเวลาการปฏิบัติงานต่อวัน และรายได้ต่อเดือน ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความสมดุลของชีวิตการทำงานและคุณภาพชีวิตในการทำงาน ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05