Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/600
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorGunlaya Kaeotaen
dc.contributorกัลยา แก้วตาth
dc.contributor.advisorWasan Sapphasuken
dc.contributor.advisorวสันต์ สรรพสุขth
dc.contributor.otherUniversity of Phayao. School of Educationen
dc.date.accessioned2022-09-16T07:26:29Z-
dc.date.available2022-09-16T07:26:29Z-
dc.date.issued30/5/2022
dc.identifier.urihttp://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/600-
dc.descriptionMaster of Education (M.Ed. (Curriculum and Instruction))en
dc.descriptionการศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม. (หลักสูตรและการสอน))th
dc.description.abstractThe objectives of the study were 1) To study and examine the efficiency of learning activities by using phenomenon based learning approach with social media to enhance critical thinking for grade 6 students with the criterion set at 80/80, 2) To compare grade 6 students’ critical thinking ability between before and after learning. A sample consisted of 25 students in grade 6 at Anuban Wiang Papao School, Wiang Papao district, Chiang Rai, during the academic year of 2021. The students were drawn from the simple random sampling method by drawing lots. The instruments were 6 lesson plans and a critical thinking test with 40 multiple-choice questions. Based on the major findings, it was recommended as follows: 1) The lesson plans based on learning activities by using phenomenon–based learning approach with social media to enhance critical thinking satisfied the set efficiency standard (E1/E2) at 88.97/82.60, higher than the standard of 80/80, 2) The comparison result of critical thinking ability, based on learning activities by using phenomenon-based learning approach with social media for grade 6 students, had significantly higher after learning at the .05 level.en
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลเวียงป่าเป้า อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ด้วยการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน และแบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ชนิดปรนัย จำนวน 40 ข้อ ผลการศึกษา พบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 88.97/82.60 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ผลการเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05th
dc.language.isoth
dc.publisherUniversity of Phayao
dc.rightsUniversity of Phayao
dc.subjectกิจกรรมการเรียนรู้ปรากฏการณ์เป็นฐานth
dc.subjectสื่อสังคมออนไลน์th
dc.subjectการคิดอย่างมีวิจารณญาณth
dc.subjectLearning activities by using phenomenon–based learning approachen
dc.subjectSocial mediaen
dc.subjectCritical thinkingen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.titleTHE DEVELOPMENT OF LEARNING ACTIVITIES BY USING PHENOMENON-BASED LEARNING APPROACH WITH SOCIAL MEDIA TO ENHANCE CRITICAL THINKING FOR GRADE 6 STUDENTSen
dc.titleการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน ร่วมกับ สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6th
dc.typeIndependent Studyen
dc.typeการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองth
Appears in Collections:School of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
63170401.pdf3.36 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.