THE DEVELOPMENT READING COMPREHENSION OF ACTIVITIES USING THE 5W1H THE TECHNIQUE IN THAI LANGUAGE FOR PLATHOMSUKSA 4 STUDENTS

Abstract

The objectives of this research were to 1) Develop a reading comprehension activities using the 5W1H technique for Thai language learning subjects for grade 4 students. 2) Compare the student’s ability of reading comprehension’s grade 4 students between before and after learning. 3) Study the students’ satisfaction toward learning by using reading comprehension activities using the 5W1H technique. The population was Grade 4 students at Ban Kong Hin School, Hang Dong Sub-district, Hot District, Chiang Mai Province, 15 students. Research instruments were reading comprehension activities using 5W1H technique 4 sets of 16 hours assessment form of reading comprehension competence, and students’ satisfaction questionnaire. The data were analyzed by finding the E1/E2 efficiency mean and standard deviation. The results of this research found that The efficiency score of reading comprehension activities using the 5W1H technique for grade 4 students were E1/E2 = 81.50/81.16, the results of comparing the ability to read comprehension using the 5W1H technique found that after the study was higher than before. The students’ satisfaction towards learning by using reading comprehension activities using the 5W1H technique overall, the scores were at the highest level.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความสําคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความสําคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านกองหิน ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จํานวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านจับใจความสําคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H จํานวน 4 ชุด 16 ชั่วโมง แบบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความสําคัญ และแบบประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพ E1/E2 ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) ชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความสําคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 81.50/81.16 ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการอ่าน จับใจความสําคัญ โดยใช้เทคนิค 5W1H หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิค 5W1H โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด