Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/511
Title: A STUDY OF THE ROLE OF SCHOOL ADMINISTRATORS IN PROMOTE ACTIVE LEARNING MANAGEMENT CHIANG RAI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 3
การศึกษาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริม การจัดการเรียนรู้เชิงรุก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3
Authors: Arthittaya Janmano
อาทิตยา จันมะโน
Thidawan Unkong
ธิดาวัลย์ อุ่นกอง
University of Phayao. School of Education
Keywords: บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา
การส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
The role of school administrators
promoting proactive learning management
Issue Date:  9
Publisher: University of Phayao
Abstract: The objectives of the study were: 1) to study of school administrators about promoting proactive learning management, the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area 3. 2) to compare the role of school administrators about promoting proactive learning management, the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area 3 classified by gender, age, highest educational background and working experience of respondents. A sample was selected from Teachers in the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area 3 consisted 317 people. The data collecting instrumonts were The 5-level estimation questionnaire, Statistical analyses were enumeration, frequency value, percentage value, mean, standard deviation and used to analyze the one-way variance. And do the test for the differences for each pair by the Scheffe's method. The findings indicated that 1) Teachers' Opinions on the Role of School Administrators in Promoting Proactive Learning Management Under the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area 3, in general had a high level of practice. 2) The results of comparing teachers' opinions on the role of school administrators in promoting proactive learning management. Under the Office of Chiang Rai Primary Educational Service Area 3. Classified by gender and highest educational background were significantly different at the .01 level. And classified by age and working experience were significantly different at the .05 level.
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริม การจัดการเรียนรู้เชิงรุก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 และเพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำแนกตามเพศ อายุ วุฒิการศึกษาสูงสุด และประสบการณ์ทำงานของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ครูในสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 317 คน โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามขนาดโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 2 กลุ่มจำแนกตามเพศ และวุฒิการศึกษาสูงสุดใช้สถิติ t–test และความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 3 และ 4 กลุ่ม วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One–Way ANOVA) และทำการทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของครูต่อผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 โดยรวมมีการปฏิบัติในระดับมาก และผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำแนกตามเพศและวุฒิการศึกษาสูงสุด แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนการจำแนกตามอายุและประสบการณ์ทำงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Description: Master of Education (M.Ed. (Educational Administration))
การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม. (การบริหารการศึกษา))
URI: http://202.28.20.112/dspace/handle/123456789/511
Appears in Collections:School of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
62170455.pdf3.13 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.