APPROACHES TO THE DEVELOPMENT AND THE PROMOTION OF TOURISM FOLLOWING THE TRAIL OF KING MONGKUT IN PRACHUAPKHIRIKHAN PROVINCE

Abstract

This research titled “Development and Promotion of Tourism Following the Footsteps of King Rama IV in Prachuap Khiri Khan Province” aims to: 1) assess the potential of tourism related to King Rama IV, 2) develop a tourism model based on his historical legacy, and 3) propose strategies for tourism development and promotion. The study adopts a qualitative research approach using in-depth interviews with 24 key informants from the government, private, and community sectors. The data were analyzed through SWOT analysis and synthesized using the TOWS matrix.

The findings indicate that the route from Bangkok through Phetchaburi to Prachuap Khiri Khan has high potential for development as a cultural-historical tourism trail. Key sites include Wat Arun, Wat Ratchapradit, Phra Nakhon Khiri, Khao Luang Cave, and the King Mongkut Memorial Park of Science and Technology at Waghor, which reflect the King's contributions in religion, science, and astronomy. The proposed tourism model emphasizes creative activities, such as historical reenactments, AR/VR experiences, and community integration through homestays and local products, while promoting sustainability and cultural preservation. Infrastructure development, diverse tourism activities, and digital marketing are essential strategies. The study introduces the “RAMATRAIL” framework (Royal, Auspicious, Modernized, Authentic, Technology, Religious, Authority, Integration, Localization) to guide the strategic development and long-term promotion of this thematic tourism route.

การวิจัยเรื่อง “แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามรอยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินศักยภาพการท่องเที่ยวตามรอยฯ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการท่องเที่ยว และ 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาและการส่งเสริมการท่องเที่ยว งานวิจัยนี้ ใช้รูปแบบการวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจากตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคชุมชน จำนวน 24 คน ดำเนินการมาสังเคราะห์ข้อมูลด้วย SWOT Analysis และ TOWS Matrix

ผลการวิจัยพบว่า 1) เส้นทางจากกรุงเทพฯ-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเป็นเส้นทางตามรอยพระบาทฯ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดอรุณราชวราราม วัดราชประดิษฐ์ พระนครคีรี ถ้ำเขาหลวง และอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้าฯ ณ หว้ากอ ซึ่งสะท้อนพระราชกรณียกิจด้านศาสนา วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ 2) รูปแบบการท่องเที่ยวตามรอยพระบาทฯ ควรเน้นการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การจำลองเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี AR/VR เทศกาลย้อนยุค และการบูรณาการกับชุมชนผ่านโฮมสเตย์และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทั้งนี้ ควรมุ่งเน้นความยั่งยืน โดยผสมผสานการเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์เข้ากับประสบการณ์ทางวัฒนธรรม เพื่ออนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และ 3) แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ควรปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่ง ศูนย์บริการข้อมูล และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ควบคู่กับการพัฒนากิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์และเทศกาลวัฒนธรรม นอกจากนี้ การใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ เช่น การโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ จะช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ผู้วิจัยนำกระบวนทัศน์ “RAMATRAIL” เป็นกรอบแนวคิดในการพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามรอยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย Royal, Auspicious, Modernized, Authentic, Technology, Religious, Authority, Integration, และ Localizaion