A MODEL OF EDUCATIONAL MANAGEMENT TO DEVELOPMENT STUDENT COMPETENCIES IN THE 21ST CENTURY OF SCHOOLS UNDER THE OFFICE OF PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA, PATHUM THANI PROVINCE

Abstract

The purposes of this study were: 1) to investigate the causal factors of the management of education for the development student competencies in the 21st century; 2) to examine the consistency of the structural equation model of these causal factors with empirical data; and 3) to evaluate the educational management models designed for this purpose. The research was conducted in two phases. In the first phase, a causal factor analysis was performed using questionnaires distributed to 300 teachers. The consistency of the structural equation model was then tested against empirical data. The data were analyzed using statistical methods, including Structural Equation Modeling (SEM). In the second phase, a model for managing education to enhance student competencies was developed through a Focus Group discussion with seven experts. The draft model was then evaluated for its suitability and feasibility by 30 stakeholders. The data from this phase were analyzed using frequency, percentage, mean, and standard deviation.

The findings of this study were as follows. 1) The causal factors of the educational management for developing 21st century student competencies in schools under the Primary Educational Service Area Office of Pathum Thani Province comprise four key variables: personnel factors, focusing on knowledge and skills; school factors, including financial management and budgeting, and school policy; and external factors, such as community conditions and economic status. 2) The structural equation model of the causal factors influencing educational management for developing 21st century student competencies aligns well with the empirical data. 3) The evaluation of the educational management model for developing 21st century student competencies in schools under the Primary Educational Service Area Office of Pathum Thani Province indicates that the model is highly accurate and appropriate (M = 4.61, SD = 0.56) and also highly feasible (M = 4.58, SD = 0.55).

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี 2) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกันของสมการโครงสร้างของปัจจัยเชิงสาเหตุกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี 3) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี การวิจัยนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 วิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี โดยใช้แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) ตามมาตราวัดของลิเคิร์ท (Likert Scale) 5 ระดับ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครู จำนวน 300 คน และตรวจสอบความสอดคล้องกันของสมการโครงสร้างของปัจจัยเชิงสาเหตุกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ วิเคราะห์โมเดลสมการเชิงโครงสร้าง (SEM) ระยะที่ 2 สร้างและประเมินรูปแบบของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี มาสร้างรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะนักเรียน โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม (Focus Group) โดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน จากนั้นนำร่างรูปแบบ ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบไปปฏิบัติ จากความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องจำนวน 30 คน วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยเชิงสาเหตุของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี มี 4 ตัวแปร ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ด้านความรู้ความสามารถ ปัจจัยด้านสถานศึกษาคือด้านการเงินและงบประมาณ และด้านนโยบายสถานศึกษา ปัจจัยภายนอกสถานศึกษา คือ ด้านสภาพชุมชนและเศรษฐกิจ 2) โมเดลสมการโครงสร้างปัจจัยเชิงสาเหตุของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ 3) ผลการประเมินรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานีในประเด็นความถูกต้องเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.61, SD = .56) และความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.58, SD = .55) เช่นเดียวกัน