THE USE OF INFORMATION TECHNOLOGY FOR MANAGEMENT OF SCHOOLSFOR PRINCESS CHULABHORN SCIENCE HIGH SCHOOL

Abstract

The purpose of this research is to study 1) the use of information and communication technology (ICT) for administration by school administrators in Princess Chulabhorn Science High Schools, and 2) to compare this use by school administrators in those schools, classified by gender, highest educational qualification, and work experience. The sample group was 310 administrators, teachers, and educational personnel, selected through stratified random sampling. Data were collected using a questionnaire with a reliability coefficient of 0.95. Data analysis employed frequency, percentage, mean, standard deviation, and inferential statistics, including independent t-test, one-way analysis of variance (ANOVA), and Scheffé's method for pairwise comparisons. The research findings revealed that: 1) The overall use of ICT for administration by school administrators in Princess Chulabhorn Science High Schools, as well as in each aspect, was at a high level. The aspect with the highest mean was academic administration, followed by general administration, while the aspect with the lowest mean was budget administration. 2) School administrators' comparison of ICT use for administration showed no significant differences in overall usage and individual aspects.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และ 2) เพื่อเปรียบเทียบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษาสูงสุด และประสบการณ์ทำงาน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 310 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.95 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติอนุมานหรืออ้างอิง ได้แก่ การทดสอบค่า t-test แบบ Independent การทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของเซฟเฟ่ ผลการวิจัย พบว่า 1) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาพรวม และรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ รองลงมา คือ ด้านการบริหารงานทั่วไป ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการบริหารงานงบประมาณ 2) ผลเปรียบเทียบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา ในภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน