BIOCULTURAL INNOVATOR COMPETENCES OF SCHOOL ADMINISTRATORS AFFECTING TO SCHOOL ACADEMIC ADMINISTRATION UNDER SECONDARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE CHIANG RAI

Abstract

The objectives of this research were 1) to study biocultural innovator competencies of school administrators under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai 2) to study academic administration of schools under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai 3) to study biocultural innovator competencies of administrators affecting academic administration of schools under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai; and 4) to create a prediction equation for academic administration of schools under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai. The sample group consisted of school administrators and teachers under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai. The sample size was determined using Taro Yamane's formula and stratified random sampling based on school size, with proportional allocation according to the population of each school size, totaling 325 people. The research instrument was a 5-point rating scale questionnaire with a reliability of 0.98. Statistics used for data analysis included frequency distribution, percentage, mean, standard deviation, correlation analysis, and multiple regression analysis. The research findings revealed that: 1) The biocultural innovator competencies of school administrators were at the highest level overall. When considering individual aspects, all aspects were at the highest level. The aspect with the highest mean was living according to the Sufficiency Economy Philosophy, followed by biodiversity conservation, adaptability, innovation creation, and creativity, respectively. 2) Academic administration of schools under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai was at the highest level overall. When considering individual aspects, all aspects were at the highest level. The aspect with the highest mean was coordination of academic development with educational institutions and other organizations, followed by learning management, educational quality assurance, curriculum development, measurement and evaluation, teaching supervision, and use of media, innovations, educational technology, and learning resources, respectively. 3) The study found that the biocultural innovator competencies of school administrators that affect academic administration in schools under the Chiang Rai Secondary Educational Service Area Office consist of three aspects living according to the philosophy of sufficiency economy, adaptability, and the ability to create innovation. 4) When considering the predictive equation for academic administration in schools under the Chiang Rai Secondary Educational Service Area Office, it was found that the administrators’ biocultural innovator competencies in all three aspects together can predict academic administration at 69.90%. Among these, living according to the philosophy of sufficiency economy has the highest influence, followed by adaptability, and then the ability to create innovation, respectively.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถีของผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย 2) เพื่อศึกษาการบริหารวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย 3) เพื่อศึกษาสมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถีของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารวิชาการ ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย 4) เพื่อสร้างสมการพยากรณ์การบริหารวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนและข้าราชการครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโรยามาเน่ และการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) โดยใช้ขนาดสถานศึกษา เป็นเกณฑ์และทำการกำหนดสัดส่วนจำนวนกลุ่มตัวอย่างตามจำนวนประชากรของแต่ละขนาดสถานศึกษา รวมจำนวนทั้งสิ้น 325 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเชื่อของแบบสอบถามเท่ากับ 0.98 สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า 1) สมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถี ของผู้บริหารโรงเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า สมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถี ของผู้บริหาร อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รองลงมา คือ ด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านการปรับตัว ด้านการสร้างนวัตกรรม และด้านความคิดสร้างสรรค์ ตามลำดับ 2) การบริหารวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การบริหารวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการ กับสถานศึกษาและองค์กรอื่น รองลงมา คือ ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านการวัดและประเมินผล ด้านการนิเทศการสอน และด้านการใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ 3) ผลการศึกษาสมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถีของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารวิชาการ ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย พบว่า สมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถีของผู้บริหาร ที่ส่งผลต่อการบริหารวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย มีจำนวน 3 ด้าน คือ ด้านการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านความสามารถในการปรับตัว และด้านความสามารถในการสร้างนวัตกรรม 4) เมื่อพิจารณาสมการพยากรณ์การบริหารวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย พบว่า สมรรถนะนวัตกรเชิงชีววิถีของผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 3 ด้าน สามารถร่วมกันพยากรณ์ การบริหารวิชาการของโรงเรียนได้ร้อยละ 69.90 โดยด้านการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีขนาดอิทธิพลสูงสุด รองลงมาคือ ด้านความสามารถในการปรับตัว และด้านความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ตามลำดับ